วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตัวละครเรื่องพระอภัยมณีต่อ

                            ม้านิลมังกร

ม้ามังกร หรือ ม้านิลมังกร สัตว์ประหลาดในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี ตามจินตนาการของสุนทรภู่ เป็นพาหนะของสุดสาคร โดยสุนทรภู่ได้รจนาถึงลักษณะของม้านิลมังกรไว้ว่า
พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พักหัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน
เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร
กินคนผู้ปูปลาหญ้าใบไม้มันทำได้หลายเล่ห์อ้ายเดรฉาน
เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปานถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน
เจ้าได้ม้าพาหนะตัวนี้ไว้จะพ้นภัยภิญโญสโมสร
ให้ชื่อว่าม้านิลมังกรจงถาวรพูนสวัสดิ์แก่นัดดา
โดยที่สุนทรภู่มิได้ให้ที่มาที่ไปของม้านิลมังกร ว่าเป็นสัตว์อะไร มาจากไหน ปรากฏตัวครั้งแรกที่ชายหาด เกาะแก้วพิสดาร โดยสุดสาครไปพบเข้า เป็นสัตว์ดุร้าย มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ สุดสาครเป็นผู้ปราบได้จากไม้เท้าวิเศษของโยคี ในที่สุด ม้านิลมังกร ก็กลายเป็นพาหนะของสุดสาคร และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ต่อนาย จากการมาช่วยสุดสาครที่ตกหน้าผาจากการทำร้ายของชีเปลือย
ลักษณะของม้านิลมังกร ตัวเป็นม้าหัวเป็นมังกร หางเหมือน[[คง ]] ลำตัวเป็นเกล็ดสีดำแวววาว เหมือนดั่งชื่อ กินอาหารได้หลายอย่างดั่งคำกลอน จึงเชื่อว่าสุนทรภู่จินตนาการมาจากกิเลนของจีน ก็เป็นได้ เพราะไม่ปรากฏสัตว์ลักษณะเช่นนี้ในความเชื่อหรือวรรณคดีเรื่องใดของไทยมาก่อน อีกทั้งตัวละครและสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง ก็มีที่มาจากหลายภาคส่วนของแต่ละประเทศอีกด้วย
ปัจจุบัน ม้านิลมังกรใช้เป็นทั้งสัญลักษณ์และฉายาของสโมสรฟุตบอลราชนาวี ระยอง ในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก

                           

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลักษณะตัวละครเรื่องพระอภัยมณี


พระอภัยมณี (พระอภัยมณี)



พระอภัยมณี เป็นโอรสของท้าวสุทัศน์กษัตริย์แห่งกรุงรัตนากับนางปทุมเกสร มีน้องชายชื่อ ศรีสุวรรณ พระอภัยมณีไปเรียนวิชาเป่าปี่จนเชี่ยวชาญสามารถทำให้ผู้ที่ได้ยินเสียงปี่ เคลิ้มหลับได้ แต่ท้าวสุทัศน์ไม่พอใจถึงขับไล่ออกจากเมืองไปพร้อมกับศรีสุวรรณ ระหว่างเดินทางพระอภัยมณีถูกนาง นางผีเสื้อสมุทร ลักพาตัวไปอยู่กับนางในถ้ำจนมีลูกชายด้วยกันชื่อ สินสมุทร ต่อมาพระอภัยมณีก็พาสินสมุทรหนีไปอยู่กับ โยคี ที่เกาะแก้วพิสดาร แล้วได้พบกับ นางสุวรรณมาลี ธิดาท้าวสิลราช ครั้นได้แต่งงานกับนางแล้ว ก็ต้องทำสงครามกับ อุศเรน ซึ่งเป็นคู่หมั้นของนาง จนอุศเรนตาย นางละเวงวัณฬา น้องสาวของอุศเรนคิดแก่แค้นแทนจึงต้องทำสงครามกัน พระอภัยมณีถูกนางละเวงวัณฬาทำเสน่ห์ให้หลงใหลนางจนตามไปอยู่ในเมืองลังกา ด้วย และนางยังยุให้พระอภัยมณีทำสงครามกับฝ่ายเดียวกัน กระทั่งโยคีแห่งเกาะแก้วพิสดารมาเทศนาโปรดสงครามจึงยุติลง ในปั้นปลายชีวิตพระอภัยมณีได้บวชเป็นฤาษีบำเพ็ญศีลอยู่ที่เขาสิงคุตร์
นางเงือก (พระอภัยมณี)



นางเหงือก มีร่างครึ่งคนครึ่งปลา คือกายท่อนบนเป็นหญิงสาวสวย แต่ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปเป็นมีหางเป็นปลา อาศัยอยู่ในทะเล นางเหงือกกับพ่อแม่ของนางได้ช่วยพา พระอภัยมณีกับ สินสมุทร หนี นางผีเสื้อสมุทร ไปที่เกาะแก้วพิสดาร แต่พ่อแม่ของนางหนีไม่ทันจึงถูกนางผีเสื้อสมุทรจับกิน แล้วนางเหงือกก็ตกเป็นภรรยาของพระอภัยมณี ต่อมาพระอภัยมณีกับสินสมุทรบวชเป็นโยคี และอาศัยเรือของท้าวสิลราชกลับไปบ้านเมือง ก่อนจากกันพระอภัยมณีไปร่ำลานางเหงือกและฝากแหวนกับปิ่นไว้ให้ลูกในท้องของ นางด้วย เวลาผ่านไปนางเหงือกคลอดลูกชาย รูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ แล้วฝากให้ โยคี เลี้ยงดูให้ เพราะนางเลี้ยงลูกเองไม่สะดวก โยคีตั้งชื่อให้ว่า สุดสาคร





นางผีเสื้อสมุทร (พระอภัยมณี)





"อียักษา ตาโตโมโหมากรูปก็กากปากก็เปราะไม่เหมาะเหมง
นมสองข้างอย่างกระโปงดูโตงเตงผัวของเองเขาระอาไม่น่าชม"

นางผีเสื้อสมุทร เป็นยักษ์ อาศัยอยู่ในถ้ำซึ่งอยู่กลางทะเล สามารถแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยได้ ชาติก่อนได้พรจากพระอิศวรให้ถอดดวงใจใส่ไว้ในก้อนหินได้ นางจึงกำเริบใจไปต่อสู้กับพระเพลิงจึงถูกไฟกรดเผาจนร่างมอดไหม้ นางก็กลายเป็นปีศาจสิงอยู่ในก้อนหินที่ฝากดวงใจไว้ ครั้นเวลาเนิ่นนานหลายปี ก้อนหินก็มีแขนขา หน้าตางอกออกมา แล้วในที่สุดก็มีชีวิตขึ้นมาอีก วันหนึ่งนางเห็น พระอภัยมณี จึงนึกรักจึงอุ้มไปอยู่กับนางในถ้ำ จนมีลูกชายด้วยกันชื่อ สินสมุทร ต่อมาพระอภัยมณีกับสินสมุทรก็พากันหนีไปจากนาง นางผีเสื้อสมุทรออกติดตามไปด้วยความรัก แต่แล้วนางก็ต้องตายด้วยเสียงปี่ของพระอภัยมณีร่างของนางก็กลับกลายเป็นหิน นอนอยู่ที่ชายหาดริมทะเลนั้นเอง


สุดสาคร (พระอภัยมณี)


สุดสาคร เป็นบุตรของ พระอภัยมณี กับ นางเงือก ว่ายน้ำและดำน้ำเก่ง โยคี นำมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เพิ่งคลอดและสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้จนแตกฉาน เมื่ออายุได้ 3 ขวบก็จับ ม้านิลมังกร มาได้ โยคีแนะนำให้สุดสาครตามหาพ่อโดยให้ไม้เท้าวิเศษไว้ป้องกันตัวและบวชเป็นโยคีให้ ระหว่างเดินทางถูก ชีเปลือย แก่หลอกไปผลักตกเหว แล้วยึดไม้เท้ากับม้านิลมังกรไป แต่ไม่นานม้าก็หนีกลับมาหา โยคีตามไปช่วยสุดสาครขึ้นจากเหวได้ สุดสาครจึงตามชีเปลือยเข้าเมืองการะเวกแย่งไม้เท้าคืนมาได้ พระสุริโยทัยกษัตริย์เมืองการะเวกสงสารสุดสาครจึงเลี้ยงไว้เป็นลูกบุญธรรม สิบปีผ่านไปสุดสาครก็ขออำลาไปตามหาพระอภัยมณีอีก หัสไชยและนางเสาวคนธ์โอรสธิดาของสุริโยทัยขอตามไปด้วย แล้วทั้งสามก็ตามหาพระอภัยมณีจนพบ ต่อมาสุดสาครได้แต่งงานกับ นางเสาวคนธ์ แล้วเป็นกษัตริย์ครองเมืองลังกา

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กำเนิดสุดสาคร                                                          

                                                  

เมื่อพระอภัยมณีได้นางเงือกแล้ว โถ! หม้อข้าวยังไม่ทันดำก็จำต้องพรากจากกันไป  เพราะบังเอิญนางสุวรรณมาลี ธิดาพระเจ้ากรุงผลึกได้ล่องเรือตามหาดวงแก้วในฝัน จนมาถึงเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีและสินสมุทรจึงขอโดยสารเรือกลับไปด้วย

๏ จะกล่าวถึงเงือกน้อยกลอยสวาทซึ่งรองบาทพระอภัยไกลสถาน
อยู่วลวังหลังเกาะแก้วพิสดารประมาณกาลสิบเดือนไม่เคลื่อนคลา ๚
๏ ให้เจ็บครรภ์ปั่นป่วนจวนจะคลอดระทวยทอดลงกับแท่นที่แผ่นผา
จะแลเหลียวเปลี่ยวใจไนยนาไม่เห็นหน้าผู้ใดที่ไหนเลย ๚
หมายเหตุ : ตัวสะกดต่างๆ คัดลอกมาจากต้นฉบับของสุนทรภู่ ดังนั้นบางคำอาจต่างไปจากปัจจุบัน  เช่นคำว่า “ไนยนา” สมัยนี้เขียนว่า “นัยนา” ก็ร่วมสองร้อยปีแล้วนะครับ วิวัฒนาการของภาษาก็เปลี่ยนไปบ้าง
จากนั้นนางเงือกก็คลอดบุตรชายมาหนึ่งคน ชื่อว่า “สุดสาคร” มีม้า “นิลมังกร” เป็นม้าคู่ใจ
สุดสาครได้เล่าเรียนวิชาต่างๆ จากพระโยคีจนเก่ง ถูกใจพระโยคีจึงได้มอบไม้เท้ากายสิทธิ์ให้
พอสามขวบก็มาลาแม่เพื่อไปตามหาพระอภัยมณีผู้เป็นพ่อ นางเงือกก็แสนห่วงใยแต่ก็จำยอม


๏ เคยกินนมชมชื่นระรื่นรสพ่อจะอดนมหมองลอองสี
ทั้งย่อมเยาว์เบาความได้สามปีเล็กเท่านี้จะไปกระไรเลย ๚
ลืมบอกไปว่าสุดสาครนั้นได้บรรพชาเป็นมุนีน้อย เมื่อลาแม่แล้วก็ออกเดินทางไปตามหาพ่อ
และแล้วก็มาพบกับชีเปลือยไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ หลอกเอาวิชาและหลอกให้นั่งภาวนาบนปากเหว
พอเผลอก็ถูกถีบตกเหวจนสลบไสล แล้วเอาม้านิลมังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์หนีไป
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ร้องไห้โฮ นึกถึงพระเจ้าตาให้มาช่วยหนูด้วย ฮือๆ หนูคิดถึงแม่ .
.


๏ โอ้เจ้าตาอาจารย์ของหลานเอ๋ยพระองค์เคยค่ำเช้าเฝ้าสั่งสอน
มาครั้งนี้ชีวาตม์แทบขาดรอนพระอาจารย์มารดรไม่เห็นใจ
เมื่อต่อตีผีดิบสักสิบโกฏิพระมาโปรดหลานรักไม่ตักไษย
โอ้ครั้งนี้มิรู้ด้วยอยู่ไกลไม่มีใครบอกเล่าพระเจ้าตา ๚
ม้ามังกรหนีชีเปลือยมาได้ก็กลับมาหาสุดสาครแล้วก็ช่วยแหกปากร้อง เพื่อให้คนมาช่วย ทั้งคนทั้งม้าร้องจนป่าลั่น ............. สลบแล้วคืนเล่าเฝ้าโศกา ฯ

๏ บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่วสดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมาประคองพาขึ้นจนบนบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์มันสิ้นสุดฦกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลิพันเกี่ยวที่เลี้ยวลดก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน ๚
แค้นนี้ต้องชำระ ! สุดสาครเข้าไปตามชีเปลือยที่เมืองการเวก ไปแย่งไม้เท้าคืนมาได้
เฒ่าชีเปลือยตกใจกระโดดผลุงหนีไป ชาวเมืองวิ่งตามกันอลหม่าน เสียงดังเข้าไปในวัง
กษัตริย์เมืองการเวกออกมาเจอสุดสาครในชุดมุนีน้อยก็รู้สึกรักใคร่เอ็นดูยิ่ง จึงตรัสถามว่า ...


๏ เป็นพงศ์เผ่าท้าวพระยาหรือพาณิชกะจิริดรู้ศรัทธาจะหาไหน
พระมุนีมีนามกรใดธุระไรจึงจะมาถึงธานี ๚
๏ พระหน่อไทได้ฟังรับสั่งถามจึงตอบความตามจริตกิจฤๅษี
อาตมาอายุได้สามปีพระชนนีชื่อมัจฉาวิลาวรรณ์ ๚

สุดสาครก็เลยเล่าเรื่องชีเปลือยไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ให้ฟัง หลังจากนั้นก็ตามจับตัวมาไต่สวน
กว่าจะจับได้ก็เหนื่อยนัก “พวกข้าเฝ้าเข้ากลุ้มรุมกันฉุด แกดิ้นหลุดแพลงพลิกเข้าจิกหัว”
เมื่อโดนจับได้แล้วแทนที่จะรับสารภาพ เฒ่าเจ้าเล่ห์กับทำปากแข็ง แถมยังกวนอีก!


๏ ฝ่ายชีเปลือยเหนื่อยอ่อนลงนอนนิ่งครั้นรับจริงกลัวจะสั่งให้สังหาร
แกล้งบิดเบือนเหมือนเป็นไข้ไม่ให้การทำสะท้านเทิ้มเทิ้มระเริ้มริก
เขาเตือนตีสีข้างผางถนัดทำจุกอัดอั้นใจไม่กระดิก
เขาจี้จิ้มทิ่มพุงสดุ้งพลิกหัวเราะริกรื้อกลับนั่งหลับตา ๚
พระเจ้ากรุงการเวกจึงสั่งให้นำไปผ่าอก แต่สุดสาคร ก็สงสาร “จึงทัดทานทูลท้าวเจ้ากรุงศรี”
เมื่อสุดสาครร้องขอชีวิตเจ้าชีเปลือย เจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นจึงรอดตายอย่างหวุดหวิด!!!

พระเจ้ากรุงการเวกมีธิดาน้อยองค์หนึ่งชื่อว่า เสาวคนธ์ แต่ไม่มีโอรส จึงโปรดสุดสาครนัก
ทั้งกษัตริย์และมเหสีได้เรียกพระธิดาเสาวคนธ์ให้มารู้จักสุดสาคร ให้เป็นพี่เป็นน้องกัน


๏ พระตรัสพลางทางเรียกธิดาราชมาร่วมอาสน์เนาวรัตน์แล้วตรัสสอน
ให้อัญชลีพี่ยาสุดสาครนางโอนอ่อนอภิวันท์จำนรรจา
พี่จ๋าพี่พระแกลตุ๊กแกร้องทำบ่วงคล้องมันเสียทีเถิดพี่จ๋า
กุมารอุ้มจุมพิตพระธิดาแล้วว่าอย่ากลัวตุ๊กแกเลยแม่น้อง
ฉันจะตีที่หลังให้ดังผลุงน้องสดุ้งสรวลสันต์กันทั้งสอง
น่าสงสารมารดรกรประคองอุ้มให้สองทรามเชยเสวยนม
สุดสาครนอนทับพระเพลาซ้ายแล้วดื่มสายโลหิตสนิทสนม
จนอิ่มหนำฉ่ำชื่นรื่นอารมณ์นางจูบเกล้าเผ้าผมเฝ้าชมเชย ๚
ชีวิตในวัยเด็กของสุดสาครก็น่ารักอย่างนี้แหละ มีขึ้นมีลง แต่ก็วาสนาดีเพราะมีเมตตาธรรม
ที่นางสุวรรณมาลีล่องเรือมาจนถึงเกาะแก้วพิสดารนั้น เพราะนางเป็นคู่หมั้นของอุศเรนเจ้ากรุงลังกา แต่นางไม่สนใจ  ตอนหลังอุศเรนโดนสินสมุทรฆ่าตาย (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) นางลเวงน้องสาวอุศเรนจึงแค้นใจ ยกทัพมาแก้แค้น แต่เห็นว่าพระอภัยมณีหล่อก็เลยแย่งซะเลย คือแย่งไปจากนางสุวรรณมาลีด้วยเสน่ห์ยาแฝด พระอภัยก็สมยอม  ครั้นถึงรุ่นลูกเป็นวัยรุ่น สุดสาครไปตามหาพ่อ นางละเวงก็เลยแนะลูกสาวให้ใช้เสน่ห์กับผู้ชาย
*** คงจำกันได้นะว่านางผีเสื้อสมุทรนั้นตายตอนไหน ตอนพระอภัยฯ อยู่บนเกาะแก้วพิสดารนั้นนางผีเสื้อมารบกวนไม่ได้ เพราะเกรงอิทธิฤทธิ์ของพระโยคี แต่เมื่อพระอภัยโดยสารสำเภาของนางสุวรรณมาลีออกมาจากเกาะแล้ว แม่ผีเสื้อก็โผล่มา  แล้วท้ายที่สุดก็ตายเพราะเสียงปี่ของพระอภัยฯ
ระหว่างที่พระอภัยและสินสมุทรกำลังติดหญิงอยู่ในกรุงลังกานั้น นางสุวรรณมาลี พร้อมด้วยสุดสาคร เสาวคนธ์ (ธิดาเจ้าเมืองการเวก) และหัสไชย (น้องชายเสาวคนธ์ ซึ่งเกิดทีหลังที่เจ้าเมืองการเวกชุบเลี้ยงสุดสาคร) ทั้งหมดนี้ก็ได้ยกทัพไปบุกเมืองลังกาของนางลเวงวัณฬาราช เพื่อจะชิงตัวพระอภัยฯ
สุดสาครและหัสไชย (น้องชาย) ก็ได้อาสานางสุวรรณมาลีเข้าไปดูพระอภัยในวังของนางลเวง
นางลเวงแสร้งทำยินดีเตรียมต้อนรับสุดสาครและอนุชา แล้วก็แอบยุลูกสาวให้เผด็จศึกสุดสาครให้ได้ แต่นางสุลาลีวัน ลูกสาวนางลเวงไม่มีประสบการณ์ก็เลยทำอิดออดอิดเอื้อนกระมิดกระเมี้ยน


๏ ด้วยไม่เคยเลยหม่อมฉันประทานโทษอย่ากริ้วโกรธกึ่งตรึกนึกไฉน
นางฟังคำร่ำปลอบให้ชอบใจกลัวทำไมมีผัวอย่ากลัวเลย
ไม่ลำบากยากเย็นเป็นแต่เขาเข้าคลึงเคล้าต้องถูกดอกลูกเอ๋ย
ชื่นอะไรนั้นไม่รื่นเหมือนชื่นเชยกลัวจะเคยเสียหนักอีกอย่าหลีกตัว ๚
จากนั้นก็ปลุกเสกเลขยันต์กันขนานใหญ่ แล้วก็อาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่องออกไปต้อนรับสุดสาคร สุดสาครถึงจะรุ่นหนุ่มแล้วแต่ก็ยังเป็นนักพรตรูปงามสวมใส่หนังเสือเป็นอาภรณ์ดังเดิม

๏ สุดสาครค้อนเคืองชำเลืองพิศระรื่นฤทธิ์รสสุคนธ์ด้วยมนต์ขลัง
ให้เสียวซาบปลาบปลื้มจนลืมชังเห็นเปล่งปลั่งพรั่งพร้อมลม่อมลไม ๚
เมื่อรู้ว่าสุดสาครต้องมนต์หลงเสน่ห์ตนแล้ว เมื่อได้โอกาสนางสุลาลีวันจึงให้สุดสาครปลดเครื่องนักพรต เพื่อมาถือเพศฝรั่งเมืองลังกาดูบ้าง “จึงว่าพี่นี้ไม่ขัดหัทยา อยากเป็นฝาหรั่งเล่นเย็นเย็นใจ”

๏ ห้ามเท่าไรไม่ยั้งไม่ฟังห้ามตามเถิดตามบุญกรรมแกล้งทำเฉย
พระกอดช้อนกรต้องประคองเชยต่างไม่เคยขามเขินเผอิญเป็น
กระดี้กระดิกพลิกเพลี่ยงเบือนเบี่ยงบิดเหมือนเรือติดตมตื้นจะขืนเข็น
แต่สาวหนุ่มชุ่มชื่นระรื่นเย็นบังเกิดเป็นอัศจรรย์ไม่ทันรู้
ด้วยรวดเร็วเปลวไฟประไลยราคเหมือนขึ้นปากนกหินดินใส่หู
พอลั่นฉับสับไกก็ไฟพรูเสียงฟุบฟู่ฟุ้งฟูมดังตูมตึง
ต่างละเลิงเชิงชมภิรมย์รื่นอันรสอื่นหรือจะเปรียบประเทียบถึง
นางเมียยั่วผัวเย้าเฝ้าเคล้าคลึงจนเหนื่อยจึงเคลิ้มหลับระงับไป ๚
ต่     นั้  ก็ มี ก  ร   พุ่  กั  อ ยู่ อี ก       บ ! ! !
จนกระทั่งพระฤๅษีจากเกาะแก้วพิสดารมาเทศนาโปรดทัพทั้งสองให้เลิกแล้วต่อกัน จึงสงบศึกปรองดองกันได้โดยนางลเวงได้เชิญนางสุวรรณมาลีและทัพกษัตริย์ทั้งหมดเข้าเมือง นอกจากนี้นางลเวงยังยอมให้นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชรในระหว่างชมสวนอีกด้วย
ต่อมานางเสาวคนธ์ที่เคยเล่นตุ๊กแกที่พระแกล(หน้าต่าง)กับสุดสาครในวัยเด็ก ก็งอนหนีกลับไป สุดสาครรู้เข้าก็ชวนหัสไชย(อนุชาเสาวคนธ์) ติดตามนางเสาวคนธ์ไปง้องอนอย่างกระชั้นชิด แต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้แต่พร่ำรำพึงเป็นบทกลอนที่คุ้นหูมาทุกยุคสมัยว่า ....
“จะเรียนร่ำทำอะไรไม่ลำบาก .... ให้ยอดยากอย่างเดียวเกี้ยวผู้หญิง”
แต่ถ้าเนื้อคู่แล้วย่อมไม่แคล้วคู่กัน หนีได้ก็หนีไป หนีอย่างไรก็ไม่พ้น เสาวคนธ์เดินหน้าต่อไปหลายบทหลายตอน ทั้งแปลงกายเป็นฤๅษีจนกระทั่งไปตีได้เมืองวาหุโลม แต่สุดสาครก็ตามไปพบจนได้ แล้วก็ได้สุขสมอารมณ์หมาย

๏ ฝ่ายนารีพี่เลี้ยงแว่วเสียงตรัสกลับสงัดเงียบระงับหรือหลับไหล
ค่อยแหวกม่านคลานแลอยู่แต่ไกลเห็นเนาในแท่นทองทั้งสององค์
นึกเอะใจใครหนอนอนคลอเคล้าพลางเคียงเข้าพินิจพิศวง
สังเกตจำสำคัญได้มั่นคงรู้ว่าองค์เชษฐาสุดสาคร ๚
เรื่องสุดสาครก็ขอจบลงเพียงตรงนี้ แต่ก็ขอสรุปเรื่องพระอภัยมณีลงไปด้วยเลยว่า ตอนจบนั้นพระอภัยมณีไปบวชเป็นฤๅษีโดยมีนางสุวรรณมาลีและนางลเวงตามไปบวชเป็นชีด้วย
ส่วนศรีสุวรรณอนุชาของพระอภัยมณีก็กลับไปครองเมืองรมจักรของนางเกษราผู้เป็นมเหสี


๏ สินสมุทรไปบำรุงกรุงผลึกได้ปราบศึกสืบวงศ์เหล่าพงศา
สุดสาครเสาวคนธ์สุมณฑาครองลังกาผาสุกสนุกสบาย ๚
เมื่อจบนิทานคำกลอนเรื่องพระอภัยมณีแล้ว ยังมีบทต่อที่เป็น นิทานเรื่องพระอภัยมณี ที่พิมพ์ในเล่มที่ ๓ มีใจความน่าสนใจตอนหนึ่งพอสรุปได้ว่า นางมัจฉา หรือนางเงือกแม่ของสุดสาครนั้น ได้รักษาศีล ๕ มาตลอด เพราะได้รับการสั่งสอนจากพระอภัยมณีเมื่อครั้งได้ครองคู่กันที่เกาะแก้วพิสดาร และมาฟังคำสอนของพระโยคีอยู่เสมอ ร้อนถึงพระอินทร์ลงมาตัดหางให้ จึงกลายเป็นมนุษย์ แล้วท้ายที่สุดสุดสาครก็มารับไปอยู่ด้วยกันที่เมืองลังกา  แล้วสถาปนานามใหม่ว่า จันทวดีพันปีหลวง”